2. กล้วยไม้ดิน 1 กระถาง
TLS ปุ๋ยใส่เคราฤษี หลอด กาแฟ เล็ก กล้วยลายพราง ลักษณะนิสัยของกล้วยไม้ดินสกุล Spathoglottis 1) สามารถเจริญเติบโตได้ดีในสภาพที่มีแสงตลอดวันไปจนถึงร่มแต่จะดีที่สุดเมื่อมีการพรางแสง๓๐ ๗๐ 2) อุณภูมิที่เหมาะสม อยู่ระหว่าง ๑๕ ๒๕ องศาเซลเซียส ถ้าอุณภูมิต่ํามากจะทิ้งใบและพักตัว 3) ชอบวัสดุปลูกระบายน้ําได้ดี เก็บความชื้นได้พอสมควร มีธาตุอาหารอุดมสมบูรณ์ 4) ชอบที่โปร่งอากาศถ่ายเทและไม่มีลมโกรกมากนัก 5) ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอกและปุ๋ยละลายช้าเหมาะสมที่สุด การใช้ปุ๋ยวิทยาศาสตร์มาก จะทําให้ใบไหม้และลําต้นเน่าได การขยายพันธุ์ การขยายพันธ์โดยการแยกหน่อเป็นวิธีการที่ง่ายและสะดวกที่สุดช่วงเวลาที่ เหมาะสม ก็คือ ฤดูฝน ตั้งแต่เดือนเมษายน กันยายน สํารบช่วงฤดูหนาวไม่นิยมทํากันเพราะกล้วยไม้จะทิ้งใบ มีโอกาสตายสูงมาก เนื่องจากกําลังพักตัว วิธีการแยกหน่อ เริ่มจากการนํากล้วยไม้ออกกระถาง เขย่าเบาๆ ให้วัสดุปลูกร่วงหล่นให้มากที่สุด จากนั้นให้ พิจารณาดูลักษณะการแตกหน่อ ของแต่ละลํา ใช้มีดหรือกรรไกร ตัดแยกโดยให้มีหน่อใหม่และลําเก่าติดมาด้วย ๑ ๒ ลําจะทําให้ต้นที่แยกออกมาเจริญเติบโตและตั้งตัวได้เร็วขึ้น นําหน่อที่แยกไว้มาลงปลูกให้วัสดุปลูกที่เตรียมไว้เสร็จแล้วรดน้ํา ผสมฮอร์โมน เร่งรากแล้วรดตามด้วยยาฆ่าเชื้อรา การขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด กล้วยไม้ดินนี้เป็นดอกสมบูรณ์เพศคือมีเกสรตัวและเกสรตัวเมียในดอกเดียวกันใน ธรรมชาติการผสมเกสรเกิดขึ้นจากแมลง การผสมเกสรอาจเป็นการผสมตัวเอง หรือข้ามพันธุ์ก็ได้ หลังการผสมพันธุ์ ดอกจะพัฒนาเป็นฝัก อายุของฝักไม่แน่นอน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับฤดูกาล และการดูแลรักษา และชนิดพันธุ์ โดยเฉลี่ยอายุฝักจะอยู่ที่ ๓๐ ๖๐ วัน เมื่อฝักแก่ตัวฝักจะแตกออก ภายในจะมีเมล็ดเป็นผงขนาดเล็กอยู่เป็นจํานวนมาก วิธีการเพาะที่ง่ายที่สุดคือ การโรยเมล็ดลง ในกระถางต้นแม่พันธุ์ แต่การเหลือรอดมีน้อย อีกวิธีหนึ่งคือการเพาะลงบนอาหารวุ้นในห้องปฏิบัติการที่มีเครื่องมือที่ทัน สมัย สะดวกที่สุดคือการตัดฝักส่งให้หน่วยงานที่มีห้องปฏิบัติการรับจ้างเพาะโดย ทั่วไปจะใช้เวลาในการเพาะจนเป็นต้นกล้าในขวดวุ้นประมาณ ๗ ๑๐ เดือน ก็สามารถนํากล้วยไม้ขวดออกอนุบาลได้ วิธีการนําต้นกล้วยไม้ออกจากขวดและการปลูก กล้วยไม้ที่พร้อมออกจากขวด มีข้อสังเกตุได้คือมีใบจริง๒ ๔ใบ ปลายใบชนขวดราก เจริญเต็มที่ อาหารในขวดหมดแล้ว วิธีการมีดังนี้ 1 ใช้กะละมังใส่น้ําไว้ประมาณ ครึ่งนึงของความสูงจากขอบ 2 ใช้ของแข็งทุบตรงก้นขวดให้แตกออก 3 เทต้นกล้ากล้วยไม้ลงในตระกร้าพลาสติก ขนาดเล็กกว่าภาชนะใส่น้ํา 4 นําตระกร้าไปแช่น้ําในกะละมัง เขย่าเบาๆหรือ หรืออาจใช้น้ําฉีดเบาๆก็ได้ เพื่อล้างวุ้นออกให้หมด 5 นํากล้ากล้วยไม้ที่ล้างวุ้นสะอาดแล้วมาแช่น้ํายาป้องกันเชื้อรา 6 ผึ่งกล้ากล้วยไม้ในที่ร่มพอหมาดๆ 7 ปลูกกล้ากล้วยไม้ในถาดหลุมสํารับเพาะกล้ามีทั้งที่เป็นพลาสติกและโฟม 8 นํากาบมะพร้าวสับที่แช่น้ําไว้จนหมดรสฝาดแล้ว เป็นวัสดุปลูกต้นกล้ากล้วยไม้โดยปลูกหลุมละ๑ ต้น 9 นําต้นกล้าไปไว้ในโรงที่พรางแสง๖๐ ๘๐ 10 ใช้น้ําผสมวิตามินบี๑ รดน้ําทุกวันในอาทิตย์แรก 1 1 รดน้ําถี่ในช่วงอาทิตย์แรก อาทิตย์ถัดไปรดน้ํา ๒ วันต่อครั้ง 1 2 หลังจากย้ายปลูก ๑๕ ๒๐ วันเริ่มให้ปุ๋ยฉีดพ่นแบบเจือจาง 1 3 หลังจากที่ดูแลอยู่ในถาดหลุมประมาณ๒ ๓เดือน ต้นกล้าจะโตพอที่จะแยกลงปลูก ในกระถาง๖ นิ้ว หรือ ๘ นิ้ว 1 4 เมื่อย้ายปลูกในกระถางปล่อยให้ตั้งตัว๑๐ ๑๕ วัน จึงใส่ปุ๋ยละลายช้า สูตร ๑๔ ๑๔ ๑๔ หรือสูตรเสมออื่นๆ กระถางละ ๑ ช้อนชา 1 5 รวมระยะเวลาที่เลี้ยงตั้งแต่เริ่มต้นอนุบาลต้นอ่อนจากขวด จนเริ่มออกดอกแรก ใช้เวลาประมาณ ๗ ๑๐ เดือน ลักษณะนิสัยของกล้วยไม้ดินสกุล Spathoglottis 1) สามารถเจริญเติบโตได้ดีในสภาพที่มีแสงตลอดวันไปจนถึงร่มแต่จะดีที่สุดเมื่อมีการพรางแสง๓๐ ๗๐ 2) อุณภูมิที่เหมาะสม อยู่ระหว่าง ๑๕ ๒๕ องศาเซลเซียส ถ้าอุณภูมิต่ํามากจะทิ้งใบและพักตัว 3) ชอบวัสดุปลูกระบายน้ําได้ดี เก็บความชื้นได้พอสมควร มีธาตุอาหารอุดมสมบูรณ์ 4) ชอบที่โปร่งอากาศถ่ายเทและไม่มีลมโกรกมากนัก 5) ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอกและปุ๋ยละลายช้าเหมาะสมที่สุด การใช้ปุ๋ยวิทยาศาสตร์มาก จะทําให้ใบไหม้และลําต้นเน่าได การขยายพันธุ์ การขยายพันธ์โดยการแยกหน่อเป็นวิธีการที่ง่ายและสะดวกที่สุดช่วงเวลาที่ เหมาะสม ก็คือ ฤดูฝน ตั้งแต่เดือนเมษายน กันยายน สํารบช่วงฤดูหนาวไม่นิยมทํากันเพราะกล้วยไม้จะทิ้งใบ มีโอกาสตายสูงมาก เนื่องจากกําลังพักตัว วิธีการแยกหน่อ เริ่มจากการนํากล้วยไม้ออกกระถาง เขย่าเบาๆ ให้วัสดุปลูกร่วงหล่นให้มากที่สุด จากนั้นให้ พิจารณาดูลักษณะการแตกหน่อ ของแต่ละลํา ใช้มีดหรือกรรไกร ตัดแยกโดยให้มีหน่อใหม่และลําเก่าติดมาด้วย ๑ ๒ ลําจะทําให้ต้นที่แยกออกมาเจริญเติบโตและตั้งตัวได้เร็วขึ้น นําหน่อที่แยกไว้มาลงปลูกให้วัสดุปลูกที่เตรียมไว้เสร็จแล้วรดน้ํา ผสมฮอร์โมน เร่งรากแล้วรดตามด้วยยาฆ่าเชื้อรา การขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด กล้วยไม้ดินนี้เป็นดอกสมบูรณ์เพศคือมีเกสรตัวและเกสรตัวเมียในดอกเดียวกันใน ธรรมชาติการผสมเกสรเกิดขึ้นจากแมลง การผสมเกสรอาจเป็นการผสมตัวเอง หรือข้ามพันธุ์ก็ได้ หลังการผสมพันธุ์ ดอกจะพัฒนาเป็นฝัก อายุของฝักไม่แน่นอน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับฤดูกาล และการดูแลรักษา และชนิดพันธุ์ โดยเฉลี่ยอายุฝักจะอยู่ที่ ๓๐ ๖๐ วัน เมื่อฝักแก่ตัวฝักจะแตกออก ภายในจะมีเมล็ดเป็นผงขนาดเล็กอยู่เป็นจํานวนมาก วิธีการเพาะที่ง่ายที่สุดคือ การโรยเมล็ดลง ในกระถางต้นแม่พันธุ์ แต่การเหลือรอดมีน้อย อีกวิธีหนึ่งคือการเพาะลงบนอาหารวุ้นในห้องปฏิบัติการที่มีเครื่องมือที่ทัน สมัย สะดวกที่สุดคือการตัดฝักส่งให้หน่วยงานที่มีห้องปฏิบัติการรับจ้างเพาะโดย ทั่วไปจะใช้เวลาในการเพาะจนเป็นต้นกล้าในขวดวุ้นประมาณ ๗ ๑๐ เดือน ก็สามารถนํากล้วยไม้ขวดออกอนุบาลได้ วิธีการนําต้นกล้วยไม้ออกจากขวดและการปลูก กล้วยไม้ที่พร้อมออกจากขวด มีข้อสังเกตุได้คือมีใบจริง๒ ๔ใบ ปลายใบชนขวดราก เจริญเต็มที่ อ
3. กล้วยไม้ดินเลี้ยงง่ายชอบแดด เลี้ยงง่ายโตไว
กล้วยไม้ดินเลี้ยงง่ายชอบแดด เลี้ยงง่ายโตไว
4. กล้วยไม้ดิน เอื้องดิน สีเหลือง เลี้ยงง่ายแถมดอกสวยมากทน
กล้วย ไม้ ดิน ใบหมาก กล้วยไม้ดินสีเหลือง กล้วยไม้ตระกูลช้าง กล้วยไม้สวยๆติดดอก กล้วยไม้ดินใบหมาก
5. กล้วยไม้ดิน เอื้องดิน สีส้ม เลี้ยงง่ายแถมดอกสวยมากทน
กล้วย ไม้ ดิน ใบหมาก กล้วยไม้ดินสีเหลือง หนอน ผีเสื้อ เลี้ยง กล้วยไม้สวยๆติดดอก กล้วยไม้เอื้องดิน
6. กล้วยไม้ดิน พันธุ์ดอกสีม่วง ออกดอกเก่ง
กล้วย ไม้ ดิน ใบหมาก กล้วยไม้สวยๆติดดอก กล้วยไม้ดินใบหมาก กล้วย ไม้ ดินไทย เจ้าหญิงรัตติกาล กล้วยไม้ดิน กล้วยไม้ดิน พันธุ์ดอกสีม่วง-ออกดอกเก่ง-ให้ดอกทั้งปี กล้วยไม้ดิน เป็นสกุลหนึ่ง ในวงศ์กล้วยไม้ที่มีความหลากหลายทางด้านสายพันธุ์ ไม่แพ้กล้วยไม้พันธุ์ทั่วไป ทนทานต่อโรค
คุณรู้หรือไม่? การเลือกซื้อกล้วยไม้ดินราคาแต่ละชนิดนั้นมีทั้ง กล้วยไม้ดินราคา นอกจากจะพิจารณาเรื่องของการใช้งานไม่ว่าจะเป็น งบประมาณ คุณภาพ ความทนทาน ชื่อเสียงของแต่ละรุ่นแล้ว ยังควรพิจารณาในเรื่องของพื้นที่ในการจัดวางและพื้นที่ใช้สอยในกล้วยไม้ดินราคาอีกด้วย โดยวันนี้เราได้จัดอันดับ กล้วยไม้ดินราคาแบบที่มีคุณภาพดีมีประสิทธิภาพมาให้คุณได้เลือกกันแล้ว ดังนี้